ประวัติพระธาตุน้อยโพนบก


ประวัติพระธาตุน้อยโพนบก (เป็นกลอนลำ)
       สาธุ สาธุ เด้อ ผู้ข้าขอวอนไหว้  องค์พระธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์ขอประนมมือนบใส่หัวคราวนี้ ขออย่ามีกรรมต้องตัวผมคือว่า  ผู้ข้าขอกล่าวเรื่องลำไห้เพิ่นฟังนับมาตั้งแต่ครั้งสร้างพระเจดีย์ มีบ่อนได๋มันผิดบ่อถูกตามความเว้า  บ่อแม่นผมเดาค้นวนตายแต่หม่องเก่า เป็นมาแต่เค้าเขาสร้างจังได๋ ธาตุพระพุทธเจ้าคนเทียวไหว้บ่อเซา  เป็นสายใจหลักหมั่นฝูงคนยาวหย่าน  พี่น้องชาวอีสาน ได้มาก้มกราบไหว้เหนือใต้ทั่วถึง เห็นว่าพระธาตุนี้อยู่ดอยสูงเพราะว่า องค์สัมมาสัญจร ได้พักฉันคราวนั้นจึงได้หันมา  ก้ำบรูพาตะวันออกอรหันต์ห้าร้อย มาพร้อมบ่อนเดียว พระมหากัสสปะ ก็จึงได้กล่าวเว้า องค์ท่านพระยาเมือง สี่พระองค์เห็นดีดั่งเดียวกันนั้น   จึงได้ขันอาสาสร้าง ถางแปงบุญแต่ง พอแต่เสร็จเรียบร้อยเห็นพ้องสู่ทาง เหตุนั้นแหละ  เหตุที่กล่าวอ้างเป็นที่ดอยสูงมันหากเป็นอุปมุงแต่เดิมดาเค้า คันพระองค์ได้เข้านิพพาน  ทุกท่านต้องเอาองค์พระเจ้ามาไว้บ่อนเดียว กัสสปะจึงได้กล่าวเว้า  องค์ท่านพระยาเมืองสี่พระยาเห็นดั่งเดียวกันนั้น จึงได้ขันอาสาสร้างถางแปงบุญแต่ง พอตกลงเรียบร้อยเห็นพ้องสู่ทาง เหตุนั้นแหละเหตุที่เพิ่นกล่าวอ้างเป็นที่ใหญ่ดอยสูงมันหากเป็นอุบมุงแต่เดิมดาเค้าเหตุเบื้องต้นก่อนหมู่บุพกรรมเบิ่งประวัติย่อกล่าวมาเห็นว่าดอยสูงนี้เป็น ที่เหมาะสมสี่พระองค์เห็นดีดั่งเดียวกันนั้น จึงได้ขันอาสาสร้างบุญแปงตกต่าง  แบ่งกันคนละข้างถางแล้วอย่างดีพระยาจุลมณีได้สร้างทางมุม ตะวันออกพระยาอินทปัตนครไปสร้างทิศใต้ต่อไป พระยานันทเสนสร้างฝ่ายเหนือ เมียพร้อมจอมพระยาทั้งหาพากันตกแต่งแบ่งกันคนละข้างถางม่างก่นดินรวมกันถ้วนให้เสมอกันล้วนแล้วเอาดินมาก่อเหมือนกันทั้งสี่ข้อพระองค์ปั้นก่อกวมความเพิ่นเสกใส่หั่นเป็นมิ่งมงคลคือพุทธสัง อิมัง โลเก ใส่ลงในน้ำ ยามพระเอาให้เอาน้ำมนต์มาตักใส่ เพื่อให้โลกนี้ ได้เป็นหมั่นแก่นสาร ก่อไปหมดทุกด้าน ตั้งแต่หัวที่มีสองวากัสสปะไล่ รวมกันเข้าเสร็จแล้วเอาอิฐปั่นกลมเลียบลูกติ่ง สร้างกำแพงกันไว้เหือใต้จง ทางสร้างประตูออกเข้าสองป่องทางเทียวเดี๋ยวนี้เฮายังเห็นให้เบิ่งเอาเด้อท่าน ตามตำนานไขชี้ มีมาตั้งแต่ก่อน ผมนี้เว้าหล่อนๆหมดเกลี้ยงสู่ตอน เว้าขึ้นมามีหลายตอนหลายเรื่องคือท้าวศรีธาตุกับท้าวขุนลาง ได้มาถากมาถางสร้างแปงเมืองบ้านอยู่ได้ไปค้าขายกับหมู่ ซื้อสิ่งซื้อของ ไปหาเงินหาทอง ทางได๋กะส่างจูงเอางัวใส่ต่าง  จัดแจงเอาของจัดเอาเงินเอาทอง ขนขึ้นใส่ต่าง จัดเอาของต่างๆ แหย่งช้างทองคำจัดเอาของช้างนำมาเป็นคู่ๆ จึงได้เอิ้นเอาหมู่มา สี่-ห้า คนได้จับเอางัวต่าง ถึงสิไกลกะส่างข้ามป่าข้ามดอน ข้ามป่าไม้ไพรขอนไปส่งไวๆ กะเลยไปบักใหญ่ ได้ข้ามมาแม่น้ำ ของทั้งสองสี่สามงัวต่างพอต่างข้ามถึงฮอดฝั่งพอดี ได้มาข้ามลี่ผีปาสวย บ้านท่าได้ลัดโคกลัดป่าข้ามใส่ภู่ดิน สิไปขายของสุรินทร์ประมาณเดือนเศษเกิน เป็นตังสังเวชคนเฮานี้กะดาย แต่ว่างัวนั้นมาตายหลุบทุนเปล่าๆบ่อได้คืนบ้านเก่าฮอดหมู่ทั้งสอง หลุบฮอดเงินฮอดทองเสียถิ่มซือๆ แหย่งทองคำแต่ก่อนสี่ห้าหกอัน ยังบ่อทันได้ปั่นกันเลยเสียถิ่มซือๆได้มาค้าขายกับหมู่เกิดอย่างกะทันหัน ได้ถิ่มแหย่งทองคำมูลมังแต่ก่อน ได้ถิ่มไว้บ้านเหล่าทุ่งหลวงต่างคำ บ่อได้เอาไปนำเพราะงัวมาตายจากกะเลยของฝากไว้นำแม่ธรณีเจ้าของเลยป่าหนีเดินไปทางใหม่พอแต่เป็ดมาใส่ที่ดอยสูงได้คุยกับลุงเฮาสิไปหรืออยู่ จึงได้เว้ากับหมู่พวกเพื่อนเดียวกันบ่อได้นึกได้ฝันคิดฮอดบ้านเก่า  บ่อได้อยู่เปล่าๆ ฟ้าวสร้างฟ้าวแปง ปั้มต้นดู่ต้นแดง ลงเป็นกาดๆ จนเป็นผืนอาดหลาดของไผของมัน ไผ่ดู๋ถากดู๋ฟันได้หลายก่อหมู่ ได้มาปลูกเฮือนอยู่ ดอนหนึ่งโนนๆจึงได้เอิ้นบ้านบกโกน อยู่ใกล้โพนป่งต่อมาจึงได้มีทุ่ง  มีไฮ มีนามีปู มีปลา พอกิน  พออยู่ เฒ่าขุนลางเป็นผู้มาอยู่หัวที กับย่าชาตรีหลายคนเป็นหมู่ พวกนี้แหละมาอยู่ครั้งแรกหัวที ส่วนพระวอ และพระตาน้องชายของท่านสองคนนี้อยู่เมืองเวียน เขาไล่ฆ่า ไล่ฟัน  แลนหนีไปลีเขากำลังสิฆ่าพระวอและกระตาเขาสิฆ่าไห้หมุ่นกำลังแตกวุ่นๆเขาไล่หนี สุริยวงค์กล่าวชี้บ่อไห้อยู่เวียงเอาทหรามารบไล่หนีตีฆ่า พระยาลาวคราวนั้นสุริยวงค์ทรงนั่งแก่เลยหวังต่อสู้เอาเวียงแท้ผู้เดียว แกมีใจเป็นโลมเลี้ยว บ่อไห้ได้เกี่ยวนำไผ ไล่พระวอและพระตาหนีจากเวียงคราวนั้น ให้สูหนีเลยถ่อน อยู่ไปหัวสอขาดทกูสิปาดต่อนเนื้อถิ่มลงแม่น้ำของ สองพี่น้องกะเลยอยู่บ่อได้ เขาไล้ข้ามมา จึงได้มาปรึกษาผู้พี่ชายผู้อยู่เมืองเฮาพี้ จึงได้หนีมาถ้ำนำพี่ชายกับหมู่มาตั้งค่ายอยู่ต่อสู้หนองคายพี้หมู่เฮาฟังสิเว้าแต่เค้าดอนผักกาดย่าบ้านข่านาคุยดอนหมากมุ่ยโคกดอนกอกมีบ่อออกโคกชอกโคกคานมาตั้งค่ายบกหวาน นาฮี และหนองหมื่น บ่อตั้งอยู่บ่อนอื่นไกลฝั่งโนนตาล ตั้งแต่ก่อนเป็นโคกสำราญ ทับฐานต่อสู่ ขุดใส่ห้วยประดู่  ฮองทมฮองตาล จำพวกนี้แหละ เป็นฐานรบเลวกันตั้งแต่ก่อน  ตกมาบ่อน ตกมาบ่อนดอนขี้ม้างเหลือม พวกนี้แหละเป็นพวกคอยดุเหตุบ่อได้ผิดสังเกต ฆ่าศึกศัตรูมีฮอดเสือฮอดงู ตามทางม้าแลน บ่อนได๋ดินแก่นๆเป็นน้ำ ซึมๆ  มีฮอดหนองนกมุม หนองหวาย หนองห้าง ต่อมาหัวภูดิน ดอนกอยดอนบ่อ พวกเจ้าฮู้จักบ่อ ตามทุ่งดงยาง เดี๋ยวนี้เอิ้น  ดงยาง  จังซั่น ท่าแม่นมันเป็นทางช้างแลน หนองใหญ่ตากู๋หนองหัวช้างหัวดง เป็นดงทุ่งใหญ่เขาจึงได้ไล่ขี่เฮือ  ขี่แพ  ขี่แล้วนำแทงนำฆ่าโนนสมกุ้งเป็นท่าเทียวขึ้นเทียวลง  หนองเผอิญเป็นสนามปังธง เป็นชัยชนะตีกันอย่างคักๆเดียรดาดเป็นแถวจนได้เอิ้นว่าหนองบักแซวตากู๋หัวช้างเอิ้นมาเป็นตัวอย่างแต่ก่อน เดิมดาจ นเป็นป่าหญ้าคา โนนต้น โนนต่าย จนชาวบ้านเบื่อหน่ายฮ้างย่าป๋าหนีเกินว่าตีว่าฆ่ากัน จนหัวแตก เหลียวเบิ่งไผ กะแบกค้อนเป็นหลามๆ ตีกันอยู่กลางสนาม เหลียว
ลงทุ่งใหญ่ บ่อจักบ่าวจักไพร่พวกราษฎร  เกินว่าเป็นตาออนซอน ตีกันเป็นหมู่ ได้มาตีกันอยู่หนองใหญ่เป็นแถว  จนได้เอิ้นว่าหนองหมากแซว ฆ่าเสือหัวช้าง ฆ่ากันเป็นตัวอย่างจนดาบเป็นแสง  จนได้ปักธงแดง ธงชัย ธงช่อ มาปักไว้หม่อๆ ข้างทุ่งดงยาง เฒ่าผ้าขาวชี้ทางไห้ชัยชนะบอกเซาคักๆไปไผไปมัน ท้าวขุนลอกะดันลิวลี้ลี้ เอิ้นเอาบ่าวเอาพี่บ่าวไพร่เสนาท้าวพระวอกกับหมู่ข้ามช่องเขาสารข้ามภูไปบ่อนานเลยไปตั้งบ้านใหม่ เลยไปตั้งบ้านใหม่อยู่หนองบัวลำภู ตามได้อ่านดูประวัติแต่เก่า อยู่เป็นพวกเป็นเหล่าชาวไฮชาวนา ส่วนว่าท้าวพระตาไปตกอยู่เสียมมะลาดบ่อได้สั่งฮอดญาติหมู่เพื่อนทั้ง หลายจักว่าเป็นหรือตาย จักหนีหรืออยู่ ฟังเอาเด้อฝูงคนเฒ่าชราการปลดปล่อย ผมอยากลำคอยลำประวัติก่อสร้างเมืองบ้านถิ่มเดิม ต้นแรกเริ่ม บ้านอยู่เนาอาศัยไผไปมากะเห็นดั่งเดียวกันนั้น มันเป็นแถวตาผ้าไผมากะอยากแวทั้งผู้เฒ่าผู้แก่ ทั้งหัวเล็ก เด็กน้อยพรมขึ้นหนุ่มคะนอง พวกพี่น้องฟังเบิ่งเอาเด้อนาย สิขยายเป็นกลอน บ่อนคนสิงฟังได้ตั้งอยู่เหนือหรือใต้ ตั้งอยู่ไกลอยู่ใกล้นายเดิมตั้งแต่ก่อน ได้มาตั้งอยู่บ่อนเลาะตะคองแม่น้ำลำ ห้วยหน่วยหนอง คลองทางใต้ดอยสูงแม่แซะ เดี๋ยวนี้เอิ้นแม่แส มีฮอยพระพุทธเจ้า เฮาไหว้อยู่สู่วัน เลาะไปตามแถวถั่นถันป่าไม้ไผ่ มันเป็นดงใหญ่ๆสีโงๆ โค้งๆ ดงนั้นอยู่ฝั่งหนองเขาตั้งวัด ไว้พร้อมน้อยใหญ่พอสมควร  เป็นกระบวนสิมมาระหว่าง ขอมเขาสร้างจึงได้มี หลักอ้างสิมมา  ตั้งแต่ก่อนเขาตั้งไว้กลางดอน  เป็นสิมมาน้อยแคมข้างระ หว่าง ตั้งอยู่โดนกะเลยห้างมา ตั้งอยู่บกโกนมันเป็นโนนสูงป่ายุงยางไม้ มาแต่ไสกะเลย เอิ้นดอยสางเป็นซื่อ ป่าไม้มืดอื้อตื้อเป็นถั่นถี่ถันนอกจากนั้นกะลัดทางลงหนองตาม ตะคลองตามบึง เบิ่งแถวทางใต้มาแต่ไสกะเลยเอิ้นดอนฐานเป็นซื่อเบิ่งมันมืดอื้อตื้อฝูงเหี้ยเต่าปลาเขียวชอุ่มแน่นหญ้าตามฝางริมหนองตามตะคลองริมสระที่อ่านดูหมดแล้วเลาะไปแถวทางใต้  หนองสระพังเลียบฝั่ง จักว่าหยังเป็นฝูง หมู่กบ หมู่เขียด  ฮ้อนลงเล่นอยู่หนอง ตั้งแต่ก่อนเพิ่นได้สร้าง กอฆ้องหอกลองเอาไว้เทียมฝั่งไว้ข้างหนองสระพัง เป็นที่ระลึกไว้ เขาสร้างไว้ เขาสร้างอ่างหิน ตั้งมาโดนหลายเลยสิ้น หมดอายุเพพัง จึงได้เอาก้อนหินมาก่นลงในส่างเอาก้อนหินมาค้าง เรียงกันใหม่ให้เป็นแข่งพากันก่อกันแปงเอา หินเฮ็ดแข่งส่างปางนั้นต่อมา มาตั้งบ้านนั้นหน้าในระหว่างสร้างพระเจดีย์มีบ่อนได๋มัน ผิดบ่อถูกตามความเว้าว่าบ่อแม่นผมเดาด้นวนตายอยู่แต่หม่องเก่า ได้เรียนนำผู้เฒ่าหมอลำนั้นต่อธาตุน้อยๆนั้นหนาชุม ตั้งอยู่ข้างในระหว่างสิมมา เป็นธาตุองค์รักษ์สิเว้าให้คักในผูกในลำยามเวลาเฮาทำบุญพะเวส จึงได้เอากัณฑ์เทศน์มาคารวะสะสงค์ได้เอาขันห้าไปปง ยอมือก้มกราบหน่วยองค์ที่สี่    เพิ่นได้ตั้งได้ตั้งไว้ปราบฝูงหมู่พระยามารคือทั้งสี่อาจารย์คนดีตั้งแต่เก่าบ่อได้เปล่าๆฟ้าวสร้าง ฟ้าวแปลง สร้างฮอดโนนศรีฐานหรือดอน บ้านเก่า บ่อได้อยู่เปล่าๆ สร้างบ้าน แปลงเมือง สร้างบ่อได้เปลือง เงินคำแก้ว พวกผู้เฒ่าเพิ่นว่าแล้วกะแล้วบ่อ  ขัดบ่อขืนพากันหาเอาหินก้อนใหญ่  ตามมาแล้วเพิ่นไพร่มาถากแอ่นๆ ถากให้มันเป็นสีแปนๆ ไว้บูชาดอกไม้ เพิ่นได้เฮ็ดมาใส่ นำวัดนำวาเฮ็ดตามทาง ทงตามนา หรือดอนโพนพระ จั่งแม่นสร้างได้มัดสูงต่ำพอดีสร้างฮอด วัดป่าศรีทุ่งนาหม่องเจ้าฮู้จักหรือบ่อพวกข่าตาขาวมีแต่ผู้ยาวๆสูงได้แปดศอก ตามตำราเพิ่นบอก แผน ที่นำมาได้มาสร้างสาลาอารามพระอยู่ได้มาหมดหมู่ทั้งเจ้าทั้งนาย ทั้งผู้หญิงผู้ชายมาแห่จักว่าแม่นไผแหน่พระสงฆ์องค์ชี พระศรีธาตุนั่นตี้ลุกขึ้นประกาศ วัดเฮาซื่อศรีธาตุบ้าน เฮาซือโพนบอก จึงได้ตกลงกันแห่งันอยู่สามมื้อคือพระยาจาต้านขานคำบอกกล่าวบอกบอกพวกเฮาชาวลูกหลานได้มาก้มกรสบไหว้อยู่เท่าสู่วันคือว่าดอยสูงนั้นเป็นที่อุดม ฝูงคนไหลมาโฮมอังออกันเข้าบ้านบก-บ้านเบ้า-บ้านโพธิ์เรียน-บ้านไผ่เลยได้เอิ้นบ้านธาตุใหญ่ตลอดเท่าสู่มื้อปางนั้นต่อมา พระศรีธาตุนั่นหนา ลดชั่วชีวังจังพากันเอาไปฝังอยู่ดอนแคมบ้าน เอาไปฝังก้ำทางมุมตะวันออก บอกว่าหอเจ้าบ้านมีฮ้านปู่ตา ก่อนสิลงทำนา เพิ่นเลี้ยงเฮือนละโตต้มไก่พร้อมทั้งเหล้าไหใหญ่ พ่อตู้จ้ำเพิ่นเอิ้นเตินไห้สู้ปี ตั้งแต่กี้ต้องเลี้ยงหอเจ้าบ้านสาก่อน จึงทำนา ต่อมาเลยถางมุ่นมีตีม้าง เพราะว่านายมาสร้างถางทางไห้มันซือตลอดเท่าสู่มื้อนี้หอบ้านจั่งบ่อมี.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น